โดยทั่วไปการวัด KPI ของโฆษณาบนช่องทางออนไลน์นั้นจะคำนึงถึงตัวเลขเป็นหลัก อย่างเช่น ยอด View, Impressions, Reach, Engagement มีคนมากดไลค์ คอมเม้น เป็นจำนวนมากหรือน้อยแค่ไหน แต่รู้หรือไม่ว่าตัวเลขเหล่านี้สามารถบ่งบอกถึง Customer Experience ที่มีต่อโฆษณาของแบรนด์ได้เช่นกัน
การตั้ง KPI เพื่อให้สอดคล้องกับ Customer Experience
![]()
จากตัวอย่างในภาพเป็นการตั้ง KPI เพื่อวัด Performance ของ Content บน Facebook Page โดยรูปแบบของ Content มีทั้งแบบรูปภาพและวิดีโอ รวมถึงรูปแบบของโฆษณาที่ค่อนข้างหลากหลาย ดังนั้น จึงจัดหมวดหมู่ของ KPI ที่ใช้ในการวัดให้สอดคล้องกับ Customer Experience ออกเป็น 4 ประเภทหลัก
- Visibility: จำนวนการแสดงผล / การเข้าถึง KPI ที่ใช้ในการวัดจึงเป็นเรื่องของ Impression / Reach / CPM /CPR
- Engagement: การมีปฏิสัมพันธ์ เนื่องจาก Content ใน Page มีทั้งแบบรูปภาพ, วิดีโอ และ โฆษณาที่เน้น Traffic ไปยังเว็บไซต์ เราจึงใช้ KPI ในส่วนของยอด View / Engagement / Click / CPV / CPE / CPC
- Conversion: ในบางครั้งอาจจะมีการใช้โฆษณาแบบ Conversion ดังนั้น การวัดผลที่จับต้องได้ จึงมีความจำเป็น KPI ในการวัด โดยจะเน้นในส่วนที่ Facebook สามารถ Track จาก FB Pixel ได้ เช่น Purchase / Add to Cart / Subscriber / Cost per conversion
- Advocacy: การบอกต่อ เราเชื่อว่าหาก Content เรามีความน่าสนใจ ดึงดูดมากอ จะทำให้กลุ่มเป้าหมายที่เห็นโฆษณาของเราอยากที่จะแชร์ บอกต่อ และอยากจะติดตาม Content ที่มีคุณภาพจากเพจของเราด้วย ดังนั้น จะมีการใช้ Share rate / Share Volume และจำนวนแฟนเพจที่เพิ่มขึ้นโดยไม่ได้ใช้งบโปรโมท Page Like มาเป็น KPI ในการคำนวณด้วย
สุดท้ายเป็นทิปเล็กๆ การวัดผลให้แม่นยำมากที่สุดสามารถทำได้โดยการตั้งเป้าหมาย (objective) ของโฆษณาให้ชัดเจนและเป็นระบบ รวมถึงการใช้เครื่องมือในการวัดที่สอดคล้องกันด้วย
Photo by Joshua Rodriguez on Unsplash