เมื่อพูดถึงวิทยาศาสตร์ เรามักจะนึกถึงการทดลอง ห้องแล็ป สูตรคำนวนต่างๆ และข้อมูลด้านทฤษฎีมากมาย แต่พอนำคำว่าวิทยาศาสตร์มาอยู่คู่กับการตลาด หลายคนเลยนึกไม่ออกว่ามันคืออะไรและวิทยาศาสตร์จะมาเกี่ยวข้องกับการตลาดได้อย่างไร
ต้องบอกว่าการมาของ data-driven marketing เป็นปัจจัยหลักของการเปลี่ยนแปลงจากการทำการตลาดแบบดั้งเดิม กลายเป็นการตลาดที่เปลี่ยนวิธีการทำความเข้าใจผู้บริโภค การกำหนดกลยุทธ์การตลาด และสุดท้ายคือเพิ่มยอดขายให้กับองค์กร ดังนั้น Marketing Science เป็นการผสมผสานศิลปะของการทำการตลาดแบบดั้งเดิม เข้ากับความแม่นยำของการใช้ data เพื่อสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นไปอีก
Marketing Science คือการนำ วิธีการ (method) เทคนิค และระบบทางวิทยาศาสตร์ มาประยุกษ์ใช้ในการตัดสินใจด้านการตลาด หลักๆ แล้วจะเน้นอยู่ 3 เรื่องคือ
- การวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics)
- จิตวิทยาของผู้บริโภค (Consumer psychology)
- การสร้างแบบจำลองการพยากรณ์ (Predictive Modeling)
เปลี่ยนจากการใช้แค่ความรู้สึกหรือสัญชาตญาณล้วนๆ มาเป็นการวางแผนและทำงานโดยมี data มาอ้างอิง ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่จากการทำการตลาดแบบดั้งเดิมที่มักจะพึ่งแต่ creative concept เพียงอย่างเดียวและปราศจากหลักฐานเชิงประจักษ์
การมาของ big data และเครื่องมือ analytics ชั้นสูงล้วนเป็นเหตุผลหลักที่ทำให้ Marketing Science เป็นที่นิยมเพิ่มมากขึ้น เอาแค่เรื่องพฤติกรรมผู้บริโภค marketing science ก็สามารถตอบเรื่อง ความต้องการ พฤติกรรม และความชื่นชอบในเรื่องต่างๆ ได้เป็นอย่างดี แล้วแปลงข้อมูล insights เหล่านั้นเป็นการ predict ความต้องการของพวกเขาในอนาคตได้อีก ไม่ใช่แค่ทำความเข้าใจข้อมูลในอดีตหรือในปัจจุบันเพียงเท่านั้น
การใช้ scientistic method มาปรับใช้ในการตลาดก็มีตั้งแต่ การตั้งสมมุติฐาน > การทดลองในสเกลเล็ก หรือการทำ A/B Testing > ก่อนจะขยายทำสเกลใหญ่ต่อไป และการนำผลจากการ execute งานจริงมาวิเคราะห์แล้วตั้งข้อสมมุติฐานใหม่ วนขั้นตอนการทดสอบใหม่อีกครั้ง
ที่สำคัญที่สุด จะเห็นได้ว่าเมื่ออธิบายเรื่อง marketing science มันคือส่วนหนึ่งของการทำ performance marketing ที่เราคุ้นเคยนั่นเอง โดยเฉพาะเรื่องการใช้ data และ scientific method ของการตั้งสมมุติฐาน ทดสอบ และวัดผล
